การเคลือบลามิเนต การเคลือบยูวี แตกต่างกันอย่างไร
ข้อดีของการเคลือบผิวหลังงานพิมพ์คือ งานพิมพ์จะสวย เพิ่มมูลค่างานพิมพ์ให้ดูหรูมีระดับ ช่วยในเรื่องของการกันความชื้นหรือกันน้ำได้ดี ทนทานมากขึ้น สีจะซีดจางช้าลง และในกรณีที่มีการพับ รอยพับจะไม่แตกเป็นขุยขาว
การเคลือบแบ่งเป็น การเคลือบลามิเนต และ การเคลือบยูวี ทั้งสองประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันดังนี้
การเคลือบลามิเนต
การเคลือบลามิเนตจะมี 2 ชนิด คือแบบเงา (Glossy) และ แบบด้าน (Matte) เริ่มจากใช้กาวหรือความร้อนอัดฟิล์มแผ่นบางๆ ให้ติดบนผิวงานพิมพ์ ราคาจะค่อนข้างสูงกว่าการเคลือบแบบ UV ข้อดีของการเคลือบลามิเนตคือ ช่วยในเรื่องของการกันความชื้นหรือกันน้ำได้ดี เพราะฟิล์มที่ใช้มีคุณสมบัติป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ และการเคลือบลามิเนตช่วยเพิ่มความหนาและความแข็งแรงให้กับงานพิมพ์ได้อีกด้วย ข้อเสียคือไม่สามารถเคลือบลงบนกระดาษบางมากๆ ได้
การเคลือบยูวี
กระบวนการคือใช้น้ำมันยูวีอาบบนผิวงานพิมพ์ แล้วอบด้วยแสงยูวี ส่วนใหญ่จะนิยมเคลือบยูวีแบบเงา ราคาการเคลือบยูวีจะถูกกว่าการเคลือบลามิเนต ข้อดีคือสามารถเคลือบบนกระดาษบางมากๆ ได้
งานหลังพิมพ์ที่นำการเคลือบลามิเนตด้านมาใช้ร่วมกับ การเคลือบแบบยูวีเงาเฉพาะจุดหรือที่เรียกกันว่า “Spot UV” เป็นการเคลือบยูวีเฉพาะจุด โดยทั่วไปจะนิยมเคลือบลามิเนตด้านก่อน แล้วจะ Spot UV ทับอีกครั้ง ช่วยให้เน้นส่วนที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นบริเวณอักษรหรือรูปภาพที่ต้องการ เพิ่มความโดดเด่นให้งานพิมพ์มากขึ้น
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง: บริการเคลือบงานพิมพ์ขนาด A3
งานพิมพ์ Company Profile ขนาด A4 ต่อกัน 3 แผ่น
15,216 ฿ – 60,464 ฿บริการงานพิมพ์นามบัตร
6 ฿ – 8 ฿งานพิมพ์โบรชัวร์ขนาด A5
3,904 ฿ – 14,382 ฿งานพิมพ์โบรชัวร์ขนาด A4
4,755 ฿ – 38,409 ฿งานพิมพ์โบรชัวร์ขนาด A3
9,762 ฿ – 67,162 ฿